Doctor's Search

ต่อมทอนซิล คืออะไร ?

พฤศจิกายน 14, 2017

ต่อมทอนซิล คืออะไร ?

ต่อมทอนซิล (Tonsil) คือ ต่อมน้ำเหลืองคู่ ซ้าย ขวา ที่อยู่ในช่องคอ มีหน้าที่คอยดักจับ ฆ่าเชื้อโรคต่างๆที่หลุดเข้าไปในช่องคอ เช่น เชื้อแบคทีเรีย

ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดต่อมทอนซิล คือ

1. เจ็บคอบ่อย ต่อมทอนซิลมีการติดเชื้อเรื้อรัง กลืนอาหารจะเจ็บคอ บางครั้งมีกลิ่นปาก ไอบ่อย และมีต่อมน้ำเหลืองข้างลำคอโต การเจ็บคออาจเจ็บ 3 ครั้ง ใน 3 ปี 5ครั้งใน 2 ปี หรือ 7 ครั้งใน 1 ปี เวลาเจ็บจะมีไข้สูง หนาวสั่น และปวดกระดูกทั้งตัว การเจ็บคอนี้ บางครั้งรบกวนต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ต้องหยุดเรียน หรือหยุดงานบ่อย
2. ต่อมทอนซิลโตมาก ทำให้มีการอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้นอนกรน หยุดหายใจเป็นพักๆขณะนอนหลับ (โรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ) นอกจากนั้น ต่อมที่โตมากอาจทำให้กลืนลำบาก หรือเด็กเกิดการเจริญเติบโตไม่เต็มที่ รายเช่นนี้ ถ้าผ่าเอาต่อมออก อาการต่างๆจะหายไปได้ถึง 75%
3. เนื้อเยื่อรอบๆต่อมทอนซิลเป็นหนอง เพราะการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้ผล
4. ต่อมทอนซิลโตข้างเดียว ซึ่งที่ต้องตัดออกเพราะอาจเป็นโรคมะเร็งต่อมทอนซิลข้างนั้นได้ จึงจำเป็นต้องตัดออก เพื่อนำทั้งต่อมมาเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา
5. มีอาการชักหลังจากเจ็บคอ ไข้สูง หรือเป็นต่อมที่พิสูจน์ได้ว่า เป็นแหล่งของเชื้อโรค ที่ก่อโรคให้ตนเอง หรือที่คอยแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น เช่น เชื้อเบตา ฮีโมลัยติกสเตรปโตคอคไค กรุ๊ป A (Beta hemolytic streptococci group A) หรือเชื้อโรคคอตีบ

หลังการผ่าตัดเจ็บคอมากไหม ?

หลังการผ่าตัด ชั่วโมงแรกๆจะเจ็บมาก แต่แพทย์จะให้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันแผลผ่าตัดติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งภายหลังกินยา อาการปวดแผลจะค่อยๆลดน้อยถอยลง และจะหายภายในระยะเวลาประมาณ 10 วัน ส่วนแผลผ่าตัดจะหายเป็นปกติภายในระยะเวลาประมาณ 30 วัน

หลังผ่าตัดเสียงพูดจะเปลี่ยนไปไหม ?

หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก เพดานอ่อนหรือผนังช่องคอจะบวมขึ้นมาก ทำให้หายใจลำบาก อึดอัด ดังนั้นการพูดหรือเปล่งเสียง อาจผิดไปจากเดิม แต่เมื่อแผลหายบวมแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
แต่อย่างไรก็ตามก็มีข้อยกเว้น คือ ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการ วีพีไอ (VPI,Velopharyngeal insufficiency) กล่าวคือ มีเสียงขึ้นจมูกหรือคล้ายเสียงรั่วออกจากจมูก ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอาการนี้ คือ
•  ผู้ป่วยมักมีความผิดปกติของเพดาน เช่น เพดานโหว่
•  มีโครงสร้างของศีรษะและใบหน้าผิดปกติ
•  มีความผิดปกติของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทใบหน้า หรือ
•  ในผู้ป่วยปัญญาอ่อน ซึ่งอาการ/ภาวะ VPI นี้ส่วนใหญ่เกิดชั่วคราว ส่วนน้อยต้องรักษาโดยการฝึกพูดหรือผ่าตัดรักษา

หลังผ่าตัดแล้วร่างกายจะผิดปกติไหม?

การผิดปกติที่อาจพบได้หลังการผ่าตัดต่อมทอนซิล คือ
1. น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น ดังกล่าวแล้วในหัวข้อก่อนหน้านี้
2. เสียงพูดเปลี่ยนชั่วคราว ดังกล่าวแล้วในหัวข้อก่อนหน้านี้
3. ยังคงมีอาการเจ็บคออยู่ เพียงแต่ว่าการเจ็บจะไม่รุนแรง ไม่มีไข้สูง ไม่มีปวดเมื่อยกระดูก และไม่มีหนาวสั่น นอกนั้นการเจ็บคอหลังผ่าตัดก็ไม่ขัดขวางต่อการกินอาหาร

ฝ้าขาวบริเวณแผลผ่าตัดเกิดจากการอักเสบติดเชื้อหรือไม่

หลังผ่าตัด 2-3 วัน ผู้ป่วยจะมีแผลในผนังช่องคอทั้งสองข้างในตำแหน่งเดิมของต่อมทอนซิล เห็นได้เป็นฝ้าขาวๆคล้ายหนองที่อักเสบบริเวณแผล อันนี้เป็นการหายของแผลไม่ใช่เป็นการติดเชื้อ และฝ้านี้จะค่อยๆหายภายในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์

หลังผ่าตัดผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

หลังผ่าตัดต่อมทอนซิล ควรปฏิบัติดังนี้
1. ผู้ป่วยจะเจ็บคอมาก ให้กินยาตามแพทย์แนะนำ อาจเอาน้ำแข็งห่อผ้าประคบข้างลำคอ (ด้านนอกของลำคอ แต่ตรงตำแหน่งที่เจ็บ) เพื่อลดบวมและเจ็บ
2. อาหารที่กินควรเป็นอาหารอ่อน (ประเภทอาหารทางการแพทย์) กลืนง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม และควรเป็นอาหารเย็น เช่น ไอศกรีม เยลลี นมเย็น งดสูบบุหรี่ เหล้า เบียร์ ของรสจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด และของกินที่แข็ง งดออกกำลังกายจนกว่าแพทย์จะอนุญาตเพื่อป้องกันเลือดออกจากแผล หลีกเลี่ยงไม่ออกสังคมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3. กลั้วคอบ่อยๆ และหลังอาหาร เครื่องดื่มทุกครั้ง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อชนิดอ่อน หรือตามแพทย์ พยาบาลแนะนำ
4. ไม่ขากเสลดหรือไอแรงๆ เพราะจะทำให้ไหมละลายที่เย็บหรือผูกไว้หลุด ทำให้มีเลือดออกหลังผ่าตัด ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ให้รีบกลับมาโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์
5. ในผู้ป่วยที่น้ำหนักตัวมาก/อ้วน นอนกรน หรือหยุดหายใจขณะนอนหลับ (โรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ) หลังผ่าตัดอาจต้องให้แพทย์ดูแลใกล้ชิด อาจต้องดูการนอน การหายใจ ตลอดจนใช้เครื่องช่วยหายใจจนกว่าจะปลอดภัย
6. พบแพทย์ตามนัดเพื่อดูแผล และรับทราบผลชิ้นเนื้อต่อมทอนซิล เพราะแพทย์ต้องตรวจชิ้นเนื้อต่อมทอนซิลร่วมด้วย (การตรวจทางพยาธิวิทยา)

การผ่าตัดต่อมทอนซิลอันตรายไหม?

ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดต่อมทอนซิลที่อาจพบได้ คือ การมีเลือดออกจากแผลผ่าตัดมาก ซึ่งพบได้ประมาณ 2-4%
อัตราเสียชีวิตจากผ่าตัดต่อมทอนซิล พบได้ประมาณ 1 ใน 25,000 ราย โดยสาเหตุของการเสียชีวิต คือ เลือดออกจากแผลไม่หยุด ภาวะหายใจล้มเหลว และจากแผลติดเชื้อ และประมาณ 1 ใน 40,000 ราย เสียชีวิตจากผลข้างเคียงจากการดมยาสลบ

สรุป ผลข้างเคียง/ผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดต่อมทอนซิล อาจมีได้ ดังนี้

1. แพ้ยาสลบ ถ้าแพ้เล็กน้อย ผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปวดศีรษะ ถ้าเป็นมาก อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และมีภาวะหายใจล้มเหลว
2. เลือดออกมาก ต้องหยุดเลือดในห้องผ่าตัด ถ้าออกมากจนซีด อาจต้องให้เลือด แต่ถ้าหลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ ยังมีเลือดออก ควรต้องรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ โดยปกติหลังผ่าตัดใหม่ๆภายใน 24 ชั่วโมง อาจมีน้ำลายปนเลือด ซึ่งถือว่าเป็นภาวะปกติ
3. ภาวะขาดน้ำ เพราะกิน/ดื่มไม่ได้ จากการเจ็บ/ปวดที่แผลผ่าตัดนานมากกว่าปกติ ปกติควรภายใน 1-2 วันหลังผ่าตัด) และการหายของแผลช้ากว่ากำหนด
4. เสียงเปลี่ยนชั่วคราวและอาจรู่สึกหายใจไม่เหมือนเดิม แต่อาการเหล่านี้จะหายไปภายในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน มีน้อยมากที่เสียงเปลี่ยนถาวร และต้องแก้ไขโดยผ่าตัด
5. หลังผ่าตัด อาจแก้ไขไม่สำเร็จในภาวะนอนกรน หรือการหยุดหายใจเป็นพักๆขณะนอนหลับ (โรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ)
6. การเจ็บคออาจไม่หาย อาจเกิดโรคแทรกซ้อนไซนัสอักเสบ และ/หรือหูอักเสบ (หูติดเชื้อ) อาจต้องรักษาต่อเนื่องไปอีก
7. บวมที่บริเวณแผลผ่าตัด หรือบริเวณเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น ที่ลิ้น สาเหตุอาจเกิดจากติดเชื้อในช่องปาก อาจพบหนองในลำคอ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น การรักษา คือการให้ยาปฏิชีวนะ
8. บริเวณโพรงหลังจมูกตีบตัน (Nasopharyngeal stenosis) มักเกิดในเด็กที่มีการผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์ (Adenoid) ร่วมด้วย แต่พบผลข้างเคียงนี้ได้น้อย

อยู่ในโรงพยาบาลนานกี่วัน ?

โดยทั่วไป ผู้ป่วยผ่าตัดต่อมทอนซิลจะอยู่โรงพยาบาลประมาณ 1 วัน ถ้าผู้ป่วยฟื้นคืนสภาพของร่างกายดี เช่น เดินได้เป็นปกติ กินได้ ไม่มีเลือดออก แพทย์ก็แนะนำให้ผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้